Megalodon
เมกาโลดอน
เมกาโลดอน(megalodon) ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Carcharodon megalodon เมกาโลดอนภาษากรีกจะหมายถึง ฟันใหญ่
เป็นฉลามที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เคยมีมาและเชื่อกันว่าเมกาโลดอนจะมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ยุคของ
Miocene และ Pliocene (16 – 1.6 ล้านปีก่อน)
ลักษณะของฉลามเมกาโลดอน
ขนาดของฉลามยักษ์ยังไม่เป็นที่แน่ชัด
เมื่อค.ศ.1909
American Museum of Nature History จัดทำปากจำลอง
ก่อนคาดว่าฉลามอาจมีความยาวถึง 45 เมตร
นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่บอกในภายหลังว่า น่าจะเป็นขนาดที่ใหญ่เกินไป
แต่ยังไม่มีใครสามารถระบุได้แน่ชัด ปัจจุบันมีการคาดว่าขนาดของฉลามเมกาโลดอน อาจมีความยาวประมาณ 20 เมตรหรือยาวกว่านั้น
ฟันของเมกาโลดอน มีความยาวประมาณ 21 เซนติเมตร และมีขนาดกรามใหญ่ถึง 2 เมตร นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเมกาโลดอนที่ยังอ่อน
จะอาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเล และตัวใหญ่จะออกหากินตามทะเลเปิดและก้นมหาสมุทร
โดยสามารถว่ายน้ำและโจมตีเหยื่อได้อย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน
เมกาโลดอนได้สูญพันธุ์ไปหมดแล้วราว 15 ล้านปีก่อน
แต่ยังเหลือปลาที่มีความใกล้เคียงกันที่สุดก็คือ ฉลามขาว แต่จะเล็กกว่าเมกาโลดอนถึงหลายเท่า
ความใหญ่และน่ากลัวของเมกาโลดอนทำให้มีผู้นำไปสร้างเป็นนวนิยายและภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง
เช่น Shark Attack 3: Megalodon ในปี ค.ศ. 2002 หรือนวนิยายเรื่อง เมกาโลดอน
นวนิยายแนววิทยาศาสตร์สยองขวัญ โดย ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักเขียนและนักมีนวิทยาชาวไทย
ฉลามชนิดนี้กินวาฬและสัตว์ใหญ่เป็นอาหาร อาศัยอยู่ทั่วโลก
โดยมีการค้นพบซากฟอสซิลทั้งในยุโรป แอฟริกา อเมริกา ออสเตรเลีย
และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อินโดนีเซีย) นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าเมกาโลดอนสูญพันธุ์เพราะภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง วาฬย้ายถิ่นหาอาหาร
จากทะเลเขตร้อนเข้าสู่เขตหนาวใกล้ขั้วโลก ทำให้ฉลามยักษ์ไม่มีอาหารกิน
จากที่ร่ำลือกันว่า
ฉลามเมกาโลดอนนั้นได้สูญพันธ์ไปแล้ว มีรายงานการพบเห็นฉลามขาวยักษ์ในปี
ค.ศ. 1918 โดยชาวประมงที่พบเห็นฉลามตัวนี้ที่มหาสมุทรแปซิฟิก และได้บอกว่า มันมีความยาวประมาณ 115 ฟุต ซึ่งใหญ่กว่าฉลามขาวและคาดว่าน่าจะไม่ใช่ฉลามขาว
เมื่อไม่นานมานี้
นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งได้ติดตั้งกล้องน้ำลึกเพื่อบันทึกภาพการกินเหยื่อของฉลาม
และพบฉลามตัวหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มาก โดยที่นักวิทยาศาสตร์ไม่รู้ว่า
มันคือฉลามชนิดไหน แต่อาจมีความเป็นไปได้ว่า คือ เมกาโลดอน